![]() สาเหตุที่ทั่วโลกที่คนไม่รวย และไม่พอเพียง 1.เพราะเชื่อในพรหมลิขิตและชะตากรรม บางคนจนเพราะความคิด ต่อให้ถูกหวยซัก 20 ล้าน แป๊บเดียวเดี๋ยวก็จนเหมือนเดิม (~ไม่เชื่อลองดูข่าวพวกถูกล็อตเตอรี่แล้วจนเหมือนเดิมภายใน 2 ปีดูได้ ) และเชื่อแต่บุญกรรม วาสนา พระเจ้าบันดาลเท่านั้น ทุกอย่างเป็นพรหมลิขิต โทษฟ้าฝน ดูแต่คนอื่นที่รวยแล้วพร่ำเพร่อได้แค่ว่า "ถ้าฉันโชคดีแบบเขาก็คงเรวยไปแล้ว" มัวงอมืองอเท้า และรำพึง "~เป็นไป ตามพระเจ้ากำหนด" 2. อยู่ในวังวนที่ไม่มีทางออกมาได้ บางคนกลัวที่จะออกมาจากกฏที่ไม่มีทางออกมาได้เพราะไม่มี โอกาส เพราะเขาเกิดมาแบบนั้น เขาจึงขาดโอกาส เช่น ยาม ไม่สามารถออกมาทำอย่างอื่นได้นอกจากเฝ้า แต่หากขาดคนที่ทำอาชีพนี้ก็คงแย่เหมือนกัน (แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาเถียงกัน เพราะถ้าคุณพูดงี้ ทำไมคุณไม่ไปเป็นยามซะเองล่ะ?) 3. ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงคนเราถ้าอยู่นิ่งๆ มันไม่มีทางจะมีโอกาสเดินเข้ามาหาหรอก มันต้องเดินเข้าไป หาโอกาส ขายของอยู่ปากซอย มัวแต่รอให้คนเดินออกมาซื้อ แทนที่จะเข็นรถเขาไปขายถึงหน้าบ้าน เพื่อ เปลี่ยนแปลงตัวเองทำไมคนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชม. แต่บิล เกตส์ หรือ คนดังๆของโลกถึงรวยล้นฟ้า เพราะเขากล้าเปลี่ยนแปลงตั้งแต่แรกแล้วแม้ว่าใครจะว่าเขานอกคอกก็ตาม 4. อยากทำแต่งานที่ชอบและถนัด และรายได้เยอะ ชอบตีแบด วาดรูป ทำไปเถอะครับ แต่ขอให้มันหาเลี้ยงชีพได้ แบบ อ.เฉลิมชัย หรือ ลีโอนาโด ดาวินชี่ เถอะบางคนคิดว่า หากทำสิ่งที่เราชอบแล้ว สิ่งนั้นจะคุ้มครองเราเอง ซึ่งไม่ผิด แต่ทำไงก็ได้ครับขอให้มันเลี้ยงตัวเองได้เถอะเราหันไปดูพ่อแม่ที่เป็นหมอ ครู วิศวะ เราจะพบว่า แท้จริงเค้าอาจจะไม่ได้ชอบจริงๆก็ได้ แต่รายได้มันดีเขาเลยทำก็แค่นั้น 5. ชอบคิดว่าฉันยุ่งตลอดเวลา ไม่มีเวลากำหนดเป้าหมาย ขออยู่วันๆเถิด คนบางคนยุ่งตลอดเวลา วันๆชอบคิดว่ายุ่งทั้งวัน แต่รู้ตัวอีกทีก็อุตส่าห์มีเวลาเล่นเกมออนไลน์ หรือทำอะไรไร้สาระเสียแล้ว รู้อีกทีก็ว่างเสียแล้วมัวคิดว่าไม่มีเวลาแม้แต่จะวางแผนว่าชีวิตควรจะทำอย่างไร ก็เหมือนคนที่ขึ้นแทกซี่แต่ไม่บอกจุดหมายกับคนขับตั้งแต่แรกแล้ว อยู่ไปวันๆ กินเงินเดือนไปเรื่อยๆ เก็บเงินเป็นก้อนๆ กว่าจะทำอะไรเองก็จะรอให้คนเห็นด้วยทั้งโลก ก็ค่อยลงมือทำ แล้วพอแก่ก็ป่วย แล้วเอาเงินก้อนที่เก็บมารักษา พอไม่หายก็ตายไป ================================= ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนรวย 1. เงินนั้นชั่วร้าย เงินคือซาตาน และปีศาจ เงินนั้นไม่ชั่วร้าย แต่ความคิดที่หลงในเงินนั้นแหละคือความชั่วร้ายคนบางคนคิดว่าความมีทางโลกคือสิ่งที่หนักอึ้ง แต่ตัวเองก็ยังไม่บวชเสียที แต่โทษว่าเงินไม่สำคัญ คุณไม่มีเงิน จะเอาอะไรมาสร้างวัด แค่สวดมนต์วัดมันจะมีปูนหล่นมาจากฟ้าหรืออย่างไรไม่มีเงินคุณจะซื้ออาหารอะไรมาถวายพระ? จะให้กับใครได้? 2. พอเพียง คนชอบคิดคำว่าพอเพียงแปลว่า ต้องเลี้ยงควายในทุ่งนา สร้างบ่อปลา ทำแปลงผักปลูกเอง แต่แท้จริงแล้ว พอเพียงแปลว่า"เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ยึดหลักทางสายกลาง ที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง ในการวางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เพียงการประหยัด แต่เป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการแข่งขันสูง" แล้วการพอใจแล้วกับการอยู่ไปวันๆ ให้เป็นภาระพ่อแม่แล้วก็ตายไป คือพอเพียงจึงเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ 3. พร่ำบ่นว่าคนรวยเยอะไป น่าจะแบ่งปันบ้าง คนเหล่านี้หากมีความคิดแค่นี้ กำลังใช้ตรรกะโง่ๆมาคิด เพราะแค่คิดก็จนแล้ว"หากคนรวยน้อยกว่านี้ คนจนก็ต้องน้อยลงตาม" แล้วมันเกี่ยวกันได้อย่างไร?? หากคนรวยลดนั่นแปลว่าคนจนก้ยิ่งจนหนักไม่ใช่หรือ? 4. รอแต่รัฐอุ้มชู ไม่คิดช่วยตัวเอง คนที่คิดแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับ"ภาระ" ประเทศ ซึ่งทำให้ประเทศต้องคอยสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อมาดูแลคนที่วันๆ "งอมืองอเท้า" เหล่านี้ (ไม่นับคนขยันแต่จน) มิฉะนั้นแล้ว รัฐบาลจะชุดไหนชุดไหนมันก็ห่วย อยู่ดี 5. ผมมันโง่ ไม่รวยเหมือนมัน รอชาติหน้าดีกว่า ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะชาตินี้คุณก็โง่เหมือนเดิม และจะชาติไหนคุณก็ไม่รวย เพราะคุณไม่ได้ทำกุศลอะไรเพิ่มได้ ที่มา : fwd เขียนโดย yayeenui
วิธีการทำใบขับขี่สากล
เหตุเกิดจากเรากับเพื่อน ๆ จะไปเที่ยวออสเตรเลียกัน โดยไปกันเอง ไม่ได้ไปทัวร์ ก็จะมีบางวันต้องเช่ารถขับไปเที่ยวเพราะไปนอกเมืองไกล ๆ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้ขับรถในต่างประเทศค่ะ โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย กลัวโดนปรับเรื่อง over speed limit อ้ะ จะโดนกี่ทีก็ไม่รู้ สงสัยต้องเตรียมกะตังค์ไปเยอะหน่อย เข้าเรื่องดีกว่า... เมื่อเราต้องขับรถในต่างประเทศ ก็จำเป็นต้องมี "ใบขับขี่สากล" ซึ่งคนที่จะมีสิทธิ์ทำได้ต้องมีใบขับขี่ประเภท 1 ปี เป็นอย่างต่ำค่ะ ใบขับขี่ชั่วคราวยังทำไม่ได้ (ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกระบุว่าต้องเป็นแบบตลอดชีพ แต่ search ใน Pantip มีคนไปทำแต่เป็นใบขับขี่ 1 ปีก็ทำได้ค่ะ)เอกสารที่ต้องเตรียมกรณีที่ไปขอด้วยตนเอง มีดังนี้ 1. สำเนาพาสปอร์ต หน้าที่มีรูปถ่าย ถ้ามีการต่ออายุก็สำเนาหน้าต่ออายุด้วย 2. สำเนาบัตรประชาชน 3. สำเนาใบขับขี่ 4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป 5. ค่าธรรมเนียม 505 บาทถ้าไม่สะดวกไปทำเองก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำแทนได้ เราลางานไปทำเองไม่ได้ ก็เลยเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วให้ป๊ะป๋าไปทำให้ค่ะ โดยต้องมีเอกสารเพิ่มเติมคือ 6. หนังสือมอบอำนาจ (ค่าอากรแสตมป์ 10 บาทชำระพร้อมค่าธรรมเนียมที่กรมขนส่งฯ ได้เลย) 7. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่ไปทำแทน ** ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกระบุว่าเอกสารขอทำใบขับขี่สากลต้องใช้ตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด และต้องใช้ทะเบียนบ้านด้วย แต่เมื่อไปทำจริงเค้าไม่ดูตัวจริงเลยค่ะ รับแต่เอกสารที่เป็นสำเนาแค่นั้น สำเนาทะเบียนบ้านก็ไม่เอาด้วยค่ะ ** เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็ไปที่กรมการขนส่งทางบก ถ.พหลโยธิน (BTS หมอชิต หรือ MRT) (เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 8.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ) โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ใช้เวลาไม่กี่นาที ดังนี้ 1. ขึ้นไปที่อาคาร 4 ชั้น 2 ติดต่อยื่นเอกสารที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสารแล้วแจกบัตรคิว ให้เราไปหาที่นั่งรอเรียกคิว 2. เจ้าหน้าที่จะเรียกให้เข้าเคาน์เตอร์ชำระเงินค่าธรรมเนียม 505 บาท และค่าอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีให้คนอื่นไปทำแทน) จ่ายแล้วไปนั่งรอ 3. เจ้าหน้าที่จะเรียกให้รับใบขับขี่สากลเพียง 3 ขั้นตอนนี้กับเวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น คุณก็จะได้ใบขับขี่สากลมาครอบครองค่ะ มีอายุการใช้งาน 1 ปีนับจากวันที่ออกบัตรตอนที่ไปต่างประเทศอย่าลืมพกใบขับขี่ไทยติดไปด้วยนะคะ เพราะว่ารถเช่าบางที่อาจจะต้องใช้คู่กับใบขับขี่สากลตอนไปรับรถค่ะ แต่ช้าก่อน!!! หน้าตามันไม่เหมือนใบขับขี่ที่เรามีกันทั่วไปหรอกนะคะ หมอพญายม วิเชียร อยู่เกตุ กับการรักษาโรคด้วย พลังจิต0 ความคิดเห็น
หมอพญายม" รักษาโรคทุกโรคได้เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส...คุณเชื่อหรือไม่ ?
...ใครที่ไม่เคยได้ยินคำร่ำลือ หรือสัมผัสประสบการณ์จริงกับ หมอพญายม หรือ อาจารย์ วิเชียร อยู่เกตุ ด้วยตัวเอง คงยากจะเชื่อ แต่รู้หรือไม่ว่า อาจารย์ วิเชียร อยู่เกตุ รักษาโรคทุกโรคได้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส และในบางครั้ง หมอพญายม สามารถรักษาโรคนั้นให้หายขาดได้จากการสัมผัสเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง โรคเอดส์ หรือ โรคประหลาด ที่ทางการแพทย์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ...แม้กระทั่งการต่อชีวิตผู้ป่วย ด้วยการต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวร และพญายม!!!! นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก หมอพญายม และหนังสือ "หมอพญายม" ที่ถ่ายทอดประสบการณ์การรักษาโรคด้วยพลังจิต และบอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของ อาจารย์วิเชียร อยู่เกตุ สำหรับ "หมอพญายม" อาจารย์วิเชียร อยู่เกตุ หรือ จิรัฏฐ์กร อยู่เกตุ ชายวัย 50 ปี ปัจจุบันเป็นผู้บริหารและวิทยากรศูนย์ฝึกอาชีพ หลักสูตรการแพทย์แผนไทย สาขาตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ หมอพญายม ยังเป็นเจ้าของบ้านอโรคยา สปา แอนด์ อคาเดมี่ ซึ่ง หมอพญายม หรือ อาจารย์ วิเชียร อยู่เกตุ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านการอบรมสมาธิจิต และสนใจในศาสตร์การเรียนรู้ด้านอภิญญา มานานกว่า 35 ปี จนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านการอบรมสมาธิจิต หรือ พลังจิต อย่างแท้จริง ก่อนที่ หมอพญายม จะค้นพบว่า ศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาสามารถนำมาใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้ ทั้งนี้ วิธีการรักษาของ หมอพญายม หรือ อาจารย์ วิเชียร อยู่เกตุ คือการใช้ พลังจิต มาช่วยตรวจหาและบำบัดโรค โดย หมอพญายม บำบัดโรคให้คนที่เจ็บป่วยมาแล้วกว่า 50,000 คน โดยไม่คิดเงิน และก็ได้ช่วยรักษาให้คนไข้อาการหนัก ๆ หลายคนให้หายจากอาการเจ็บป่วยมาแล้ว ซึ่งคนไข้หลายคนต่างยืนยันว่า อาการของพวกเขาดีขึ้นตามลำดับ หลังได้รับการรักษาจาก หมอพญายม จนสร้างความประหลาดใจให้อย่างมาก นอกเหนือจากความน่าประหลาดใจในความสามารถด้านพลังจิตของ หมอพญายม ผู้นี้ เห็นจะเป็นเรื่องราวชีวิตที่ไม่ธรรมดาของเขา อาจารย์ วิเชียร อยู่เกตุ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผ่านหนังสือ "หมอพญายม" ว่า ตัวเองเป็นทารกที่เติบโตนอกมดลูก จนชาวบ้านต่างลือกันว่าเป็น "ลูกผีมาเกิด" พ่อแม่จึงทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เกิดมาลืมตาดูโลก แต่นั่นไม่สำเร็จ! ต่อมาเมื่อ วิเชียร อยู่เกตุ อายุได้ 7 ขวบ เขาก็อาศัยอยู่กับน้าในซ่องโสเภณี และโตขึ้นพร้อม ๆ กับเริ่มเรียนรู้การทำร้ายคนที่มาใช้บริการแล้วเบี้ยว เริ่มรู้จักกับมาเฟีย ขลุกอยู่ในบ่อนพนัน ชอบการตีรันฟันแทง จนเริ่มสร้างอิทธิพล เรียกเก็บค่าคุ้มครอง และรับจ้างฆ่า! และเมื่อก่อคดีมากขึ้น วิเชียร อยู่เกตุ จึงหนีไปเป็นทหารรับจ้างรบในประเทศลาว ปานามา และสหรัฐฯ นอกจากนี้ หมอพญายม ยังเคยเปิดธุรกิจ อาบ อบ นวด, คาเฟ่, ทำบ้านจัดสรร บ่อตกปลา ฯลฯ ทว่าชีวิตอยู่สุขสบายได้ไม่นาน ธุรกิจที่ หมอพญายม สร้างมากับมือก็กลายเป็นหนี้สินเกือบ 500 ล้านบาท และหลังจากนั้นเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ นานา ก็ถาโถมเข้าใส่ หมอพญายม ประหนึ่งเตือนให้รู้ว่ากรรมที่ หมอพญายม เคยทำไว้กำลังจะสนองกลับ!! เริ่มด้วย...ผู้หญิงที่ หมอพญายม คบหาด้วยทุกคนทรยศไปมีชู้ ถัดมา หมอญายม ก็เจออุบัติเหตุรถตกเขา จากนั้นก็ถูกยิงผิดตัว รถใหม่ป้ายแดงถูกลอบวางระเบิด เจ้ากรรมนายเวรตามหลอกหลอน และถูกคู่อริไล่ฆ่าถึง 23 ครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง หมอพญายม หรือ วิเชียร อยู่เกตุ ได้มีโอกาสกราบ หลวงปู่เทียม สิริปัญโญ อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขาจึงตัดสินใจบวช และฝากตัวเป็นศิษย์ โดยมีจุดประสงค์เดียวคือ เพื่อจะได้ไม่ต้องตกนรก ระหว่างที่ หมอพญายม หรือ วิเชียร อยู่เกตุ บวชอยู่นั้น เขาเร่งทำสมาธิเพื่อศึกษาหนทางสู่อภิญญาอย่างหนัก หมอพญายม อ่านพระไตรปิฎกทุกเล่มจนฌาณเริ่มแก่กล้าจนเข้าสู่ระดับอภิญญาในที่สุด หลังจากนั้น หมอพญายม ตั้งใจฝึกสมาธิอย่างจริงจังนานร่วม 10 ปี และเมื่อรู้ว่า พลังจิต ที่เพียรฝึกปฏิบัติสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ หมอพญายม จึงตั้งตัวเองเป็น "แพทย์หมดทางเลือก" หรือ การช่วยเหลือผู้ป่วยที่หมดทางรักษาจากที่อื่นแล้วนั่นเอง และนี่คือเรื่องราวของ หมอพญายม หรือ วิเชียร อยู่เกตุ อดีตนักฆ่า ที่กลับกลายมาเป็นนักบุญ ซึ่งแม้วิธีการรักษาของเขา จะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า ไม่สายเกินไปที่คนเลวคนหนึ่งจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เผยรายชื่อมหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลก ฮาร์วาร์ด ครองที่ 10 ความคิดเห็น![]() ไทม์ส ไฮเออร์ เอ็ดดูเคชั่น" ได้เปิดเผยการจัดอันดับ 200 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปีนี้ โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งสหรัฐอเมริกา ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ขณะที่มหาวิทยาลัยซึ่งมีชื่อเสียงเก่าแก่ของอังกฤษอย่างอ๊อกซ์ฟอร์ดต้องตกมาอยู่ในอันดับที่ 5นอกจากนี้ การจัดอันดับดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า จำนวนมหาวิทยาลัยในทวีปอเมริกาเหนือที่ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกของโลก มีจำนวนลดลงจาก 42 แห่งในปี พ.ศ. 2551 มาเป็น 36 แห่งในปี พ.ศ.2552 ขณะที่มหาวิทยาลัยในทวีปยุโรปที่ติด 100 อันดับแรก มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 36 แห่งในปีก่อน มาเป็น 39 แห่งในปีนี้ เช่นเดียวกันกับมหาวิทยาลัยในทวีปเอเชียที่มีจำนวนเพิ่มจาก 14 แห่ง เป็น 16 แห่ง หลังเวลาผ่านไปหนึ่งปีสำหรับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับสูงสุดของเอเชีย ได้แก่ มหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 22 นอกจากนี้ ไทม์ส ไฮเออร์ เอ็ดดูเคชั่น ยังจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องในด้านต่าง ๆโดยมหาวิทยาลัยในทวีปยุโรปสามารถทำคะแนนได้ดีในการจัดอันดับรูปแบบดังกล่าว เช่น มหาวิทยาลัยลอนดอน สกูล ออฟ อีโคโนมิคส์ แอนด์ โพลิติคอล ไซน์ส ของอังกฤษ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาทางด้านสังคมศาสตร์ที่ดีที่สุด เป็นต้นในส่วนของมหาวิทยาลัยไทยนั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยติดอยู่ในอันดับที่ 138 ซึ่งถือว่าสูงขึ้นหากเปรียบเทียบกับอันดับที่ 166 เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ ไทม์ส ไฮเออร์ เอ็ดดูเคชั่น ได้ทำการจัดอันดับ 200 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก จากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิชาการจำนวน 9,386 คน และผู้ถูกจ้างงานจำนวน 3,281 คน จากทั่วโลก รายชื่อ 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปี พ.ศ.2552 จากการจัดอันดับของไทม์ส ไฮเออร์ เอ็ดดูเคชั่น1. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา2. มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ3. มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา4. มหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ5. มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ5. มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ6. มหาวิทยาลัยชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา7. มหาวิทยาลัยปริ๊นซ์ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา8. สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา9. สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา10. มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
5 บทความล่าสุดที่เกี่ยวข้องAbout MeMy Favories listSponsor LinkWeather ForecastOil prices today.Various stories
|








